การนอน คือ การพักผ่อนที่ดีที่สุดและจำเป็นต่อร่างกายมากๆ การนอนอย่างเพียงพอ ทำให้เรารู้สึกสดชื่นตอนตื่น ช่วยให้ใบหน้าสดใส และช่วยให้กระบวนการต่างๆในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของการนอน
1.สมองสร้างเคมีสุข (เมลาโทนิน,ซีโรโทนิน และฮอร์โมนเพศ)
2.สร้างเคมีหนุ่มสาว (โกรทฮอร์โมน)
3.คุมความดันเลือดได้
4.ความจำดีขึ้น
5.ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนสึกหรอ
6.ลดความเสี่ยงโรคอ้วน
7.มีความสุขง่ายขึ้น
8.ได้ล้างพิษ
เคล็ดลับช่วยให้นอนหลับง่าย ตื่นสดชื่น มีแรงมีพลัง by สาริณี
1.สร้างบรรยากาศให้การนอน
-เข้านอนก่อน 4ทุ่ม เลทช้าได้ถึงเที่ยงคืน อยากนอนหลับ ต้องปรับค่ะ
-ปิดไฟนอน บ้านที่ปิดไฟนอนไม่ได้ จะด้วยเหตุผลต่างๆอะไรก็ช่าง ก็ให้หาผ้าปิดตามาใช้ค่ะ เสียงดังรบกวน ก็หาที่อุดหูมาใส่นอนค่ะ -จบ-
-เตียงนอน,ที่นอน,ฟูก,หมอน,ผ้าปูที่นอน,ปลอกหมอน,ผ้าห่ม ต้องสะอาด เตียง,หมอนเลือกที่ตัวเองนอนสบาย
-อุณหภูมิห้อง ต้องไม่ร้อน ไม่หนาวเกินไป อุณหภูมิที่เรารู้สึกสบาย ผ่อนคลาย พร้อมนอน
-ตอนกลางวัน ควรใช้แรงให้เยอะๆ กลางคืนจะได้หมดแรง นอนหลับง่าย ไม่ดีด ไม่alertเบิกบานตอนกลางคืน **สำหรับคนที่ชอบสดใสตอนกลางคืน ควรปรับเปลี่ยนตัวเอง ให้ออกกำลังกายตอนเช้า หรือกลางวัน เย็นก็ได้ แต่อย่าเล่นก่อนนอน กลางวันขยับตัวให้มาก พลังจะได้ไม่เหลือตอนกลางคืน **ส่วนคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำแล้วยังนอนยากอยู่ ให้เพิ่มการยืดกล้ามเนื้อทุกส่วนๆให้นานขึ้นอีก
-อาหารมื้อเย็น ไม่กินแป้ง,น้ำตาลเยอะเกินไป ไม่กินคาเฟอีน,กาแฟ,ชา,ชาเขียว,ช็อคโกแลต งดเลย ไว้กินตอนเช้าแทนดีกว่า ไม่ดื่มเเอลกฮอล์ก่อนนอน มื้อเย็นเน้นโปรตีนดี ผักสีเขียวให้เยอะ ไม่ควรอดมื้อเย็น เดี๋ยวหิวตอนกลางคืน
-มื้อเย็นกินห่างจากเวลานอน 2-3 ชม.
2.เคลียร์สมองให้โล่ง ปลอดโป่ง
○ วางมือถือ ไม่เล่นมือถือก่อนนอน
○ไม่ดูหนังผี,หนังตื่นเต้น,สยองขวัญ ไม่ดูหรือฟังข่าวดราม่า,การเมือง ทุกข่าวไม่อ่านก่อนนอน เพราะจะทำให้ฝันเยอะ ตื่นแล้วเพลียด้วย
○ฝึกหายใจ ช่วยให้สมองโล่ง
°°° หายใจเข้าทางรูจมูก นับ 1-4 วินาที นับช้าๆไม่รีบ (ท้องพอง) แล้วกลั้นหายใจไว้ ท้องยังพองอยู่ นับ 1-7 วินาที แล้วหายใจออกทางปาก โดยใช้ปลายลิ้นเเตะที่เพดานบน นับ 1-8 วินาที (ท้องยุบ) ทำวนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหาวนอน แล้วหลับไป ครั้งแรกที่ฝึก ใช้เวลาประมาณ 20 นาที หลับเลยจ้า
ขอให้หลับในอู่ทะเลบุญนะคะ good night
**ถ้าลองทำตามแล้ว ไม่ดีขึ้น ไม่ได้ผล แนะนำควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและการรักษาด้วยวิธีที่ถูกต้องต่อไปค่ะ.